สอนวิธีเซฟไฟล์ Canva สำหรับงานพิมพ์
วิธีบันทึกหรือเซฟไฟล์ Canva เพื่อส่งให้ร้านพิมพ์สำหรับงานป้ายนับว่าเป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะหากเราเลือกเซฟไฟล์ที่ผิดวิธี จะทำให้ผลงานที่เราออกแบบใช้งานไม่ได้ แต่เรามีขั้นตอนที่ง่ายและนำมาใช้งานได้จริง จะต้องทำอย่างไร ที่นี่มีคำตอบค่ะ
ไฟล์ที่ทำจากโปรแกรม Canva ใช้งานได้หรือไม่
ในปัจจุบันเรามีโปรแกรมที่ใช้ในการออกแบบหรือดีไซน์ที่สะดวกและรวดเร็ว ซึ่งคงจะหนีไม่พ้นโปรแกรมสุดฮิตอย่าง Canva อย่างแน่อน หรือหากใครที่ยังไม่เคยใช้แนะนำให้ทดลองใช้งานแบบฟรีๆ ได้เลย สามารถใช้งานออกแบบได้ตรงตามความต้องการอย่างแน่นอน รวมทั้งสามารถ Download เพื่อนำมาใช้ในการสั่งทำ หรือสั่งผลิตป้ายได้อย่างง่ายดาย มีรูปแบบตัวอย่างที่น่าสนใจและสามารถนำใช้งานตามแบบที่เราชอบได้อย่างง่ายดาย
แน่นอนว่าเมื่อเรามีการออกแบบเรียบร้อย ถึงขั้นตอนที่จะนำส่งให้กับทางร้านป้ายเพื่อนำมาพิมพ์แต่ทำไมไฟล์ที่เราแชร์ให้ไม่สามารถนำมาใช้ได้ โดยบางร้านจะไม่รับงานที่ออกแบบด้วย Canva ไฟล์ที่ทำการเซฟมานั้นใช้ไม่ได้ แล้วแล้วเราต้อง Save งานแบบไหนที่จะรับงานของเราไปผลิตได้
ปกติแล้วเราจะส่งไฟล์ด้วยการส่งเป็น Link หรือแชร์เพื่อให้ทีมที่ทำงานด้วยโปรแกรม Canva ทำงานร่วมกันได้ เพื่อเปิดหรือแก้ไขงานได้ แต่หากว่าเราส่งไปให้ทางร้านป้ายด้วย Link อาจจะทำให้เกิดปัญหาฟ้อนเพี้ยน หากใช้แบบ Free อาจจะมีลายน้ำขึ้นได้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมโรงพิมพ์ถึงไม่รับไฟล์งานที่เป็น Canva นั้นเอง
หากเราเซฟไฟล์งานจาก Canva ในรูปแบบที่ถูกต้องก็จะทำให้นำไปใช้ในงานผลิตได้โดยไม่มีปัญหาตามมา ยกตัวอย่างเช่นโปรแกรมกราฟฟิคที่ใช้ในการออกแบบ เช่น Ai หรือ Photoshop ก็มีกรรมวิธีในการ Create Outline ซึ่งจะเป็นกรรมวิธีของแต่ละโแปรแกรม ในส่วนของ Canva ก็มีวิธีการหรือขั้นตอนในทำงาน เรามีคำตอบให้ในบทความนี้
รู้จักนามสกุลไฟล์ใน Canva
นามสกุลไฟล์ในโปรแกรม Canva ที่เรานิยมใช้กันเป็นมาตรฐาน จะมีอยู่ 3 นามสกุล ซึ่งหลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ในกรณีที่เราต้องการเซฟหรือบันทึกไฟล์งาน หรือการกดแชร์ หรือกด Download มันจะมีให้เลือกประเภทของไฟล์งานที่เราต้องการเพื่อให้ตรงกับการใช้งานที่เหมาะสม ดังนั้น เราจะมาทำความเข้าใจกับประเภทของไฟล์งานต่างๆ เพื่อที่เราจะได้นำมาเลือกใช้ได้อย่างถูกต้อง
- PNG (Portable Network Graphics) เป็นไฟล์รูปภาพที่คล้ายกับ ไฟล์นามสกุล JPG แต่ PNG จะมีข้อดีกว่าตรงที่เราสามารถเลือกใช้งานรูปภาพที่ไม่มีฉากหลังได้ รวมไปถึง คุณภาพของไฟล์แบบ PNG จะให้คุณภาพสีที่ดีกว่า จึงทำให้เรานิยมใช้การเซฟแบบ PNG มากกว่า ซึ่งในรูปแบบนี้อาจจะเหมาะกับไฟล์ที่เป็นรูปภาพซะมากกว่า
- PDF จะเป็นไฟล์รูปแบบมาตรฐานที่ทุกโปรแกรมสามารถบันทึกได้เลย มองว่า PDF เป็นภาษากลางของทุกโปแกรมเลยก็ว่าได้ ไฟล์ PDF จะเป็นไฟล์ที่ได้รับความนิยมเนื่องจากในการบันทึก คุณภาพงานที่ได้จะครบถ้วนและมีความละเอียดตามต้นฉบับ รวมไปถึงฟ้อนจะไม่ผิดเพี้ยนอีกด้วย
- SVG (Scalable Vector Graphics) ไฟล์งานในรูปแบบนี้จะเป็นไฟล์ที่มีการบันทึกด้วยระบบการทำงานแบบกราฟฟิค ซึ่งโดยปกติแล้ว จะมี 2 ประเภท
-
- Raster คือกลุ่มของไฟล์ภาพ PNG, JPG ซึ่งจะเป็นการประมวลผลในรูปแบบของ Pixel ประกอบกันมาเป็นจุดๆ ซึ่งเวลาเราซูมเข้าไปจะเห็นเป็นเม็ดสีเป็นจุดเล็กๆประกอบกันเป็นรูปภาพ แน่นอนว่าถ้าเราเซฟงานมาด้วยความละเอียดที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจจะไฟล์มันเบลอๆ ไม่ชัดเจน เมื่อสั่งพิมพ์อาจจะทำให้ภาพออกมาไม่สวยงาม
- Vector คือกลุ่มไฟล์ภาพที่ใช้การประมวลผลโดยใช้สูตรหลักการทางคณิตศาสตร์ ซึ่งจะทำให้เมื่อมีการซูมหรือ ขยายออก หรือนำไปใช้ไซร์ขนาดใหญ่ ก็จะทำให้ภาพไม่แตก หรือไม่สูญเสียความละเอียดเลย ซึ่งรูปแบบนี้มักจะเห็นในการทำงานกราฟฟิกมากที่สุด
วิธีเซฟไฟล์จากโปรแกรม Canva
การเซฟไฟล์เพื่อนำไปใช้ในงานพิมพ์ ตัวโปรแกรม Canva จะมีทั้งแบบฟรี และ แบบพรีเมี่ยม ดังนั้น การนำมาใช้งานก็จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน แน่นอนว่าแบบที่เราเสียเงิน จะต้องได้คุณภาพที่ดีที่สุด โดยการเซฟไฟล์มีขั้นตอนอย่างไรบ้างเรามาดูกัน
1. กดปุ่ม Share เพื่อทำการ Download
หลังจากที่ออกแบบเรียบร้อยแล้วเราสามารถบันทึกไฟล์ได้โดยเลือกปุ่ม Share บริเวณบนขวา
2. เลือกปุ่ม Download
หลังจากกด Share แล้ว จะมีหน้าต่างสำหรับ Share ให้เข้ามา Download ได้ โดยหากมีกำหนด Limit Access สำหรับคนทั่วไปอาจจะต้องอนุญาติให้คนที่เราต้องการให้เข้ามาแก้ไขเพิ่มรายชื่อเข้าไป ในส่วนนี้ลองหาบทความเรื่อง การให้สิทธิ์ในโปรแกรม Canva ดูนะ
3. เลือก File type
ปกติแล้วเราจะสามารถเลือก ชนิดของไฟล์ที่ต้องการได้ โดยหากเราเลือกเป็นแบบ PNG ซึ่งเป็นไฟล์ในรูปแบบภาพควรจะเลือกให้มีความละเอียดสูงซึ่งจะมีหน่วยเป็น px ถ้าหากเลือกที่ความละเอียดสูงก็จะทำให้ขนาดของไฟล์งานใหญ่ขึ้น แต่หากเลือกที่ความละเอียดน้อยก็จะทำให้ภาพเบลอหรือไม่ชัด
ดังนั้น การเลือกไฟล์ชนิด PNG อาจจะยังไม่เหมาะสำหรับนำไปใช้ในงานพิมพ์ ควรเลือกเป็นไฟล์ชนิด PDF จึงจะเหมาะสมกว่า แต่ถ้าหากไฟล์ของเราประกอบไปด้วยรูปภาพแล้วก็คงจะหลีกเลี่ยงการเซฟไฟล์แบบ PNG ไปไม่ได้ ดังนั้น เราควรจะต้องเลือกไฟล์ที่นำมาใช้ต้องเป็นไฟล์ต้นฉบับที่มีความละเอียดสูงที่สุดเท่าที่จะหาได้ เพราะหลังจากออกแบบเรียบร้อยแล้ว อาจจะไม่สามารถนำมาแก้ไขได้ในภายหลัง
4. เลือก PDF Print
ไฟล์งาน PDF จะเหมาะกับการนำไปใช้ในงานพิมพ์มากที่สุด เราสามารถเลือกช่อง File type แล้วเลือก PDF Print ซึ่งจะเป็นชนิดที่เหมาะสำหรับงานพิมพ์หรือสามารถเปิดจากโปรแกรมออกแบบยอดนิยมเช่น Ai หรือ PDF ซึ่งจะเป็นในรุปแบบ Vector file ทำให้สามารถปรับขนาดใหญ่ได้โดยงานไม่แตก และความคมชัดยังคงมีเหมือนเดิม
หมายเหตุ : หากเป็นรูปภาพที่เรานำมาใส่เพิ่ม การเซฟไฟล์แบบ PDF อาจจะไม่ช่วยให้ภาพชัดเจนเมื่อมีการขยายให้ใหญ่ขึ้นเนื่องจาก ภาพที่เรานำมาใช้นั้นจะมีการเก็บแบบ pixel จึงทำให้มีผลต่อความละเอียดที่น้อยลงนั้นเอง
5. เลือก Color Porfile
เลือก Profile ที่เป็นแบบ CMYK ซึ่งเป็นการบันทึกภาพให้อยู่ในรูปแบบของเวกเตอร์ โดยรูปแบบนี้จะเหมาะกับการนำไปใช้ในงานพิมพ์ได้ดีที่สุด แต่ถ้าหากเลือกเป็นแบบ PNG แล้วก็ควรจะเลือกความละเอียดที่สูงเพื่อให้ภาพของเราคมชัดมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ลองดูตัวอย่างงานพิมพ์ที่ได้เลย..ป้ายอะคริลิคพิมพ์สี
สรุป
การออกแบบด้วยโปรแกรม Canva จะสามารถเลือกเซฟไฟล์เพื่อนำมาใช้ในงานพิมพ์ที่ได้ความคมชัดและชัดเจนที่สุด ควรจะเซฟเป็นไฟล์ PDF หรือ SVG ซึ่งเป็นไฟล์ที่ใช้ที่เป็นรูปแบบ ไฟล์เวกเตอร์ (Vector) ซึ่งจำทำการเก็บคุณสมบัติและความละเอียดได้อย่างดีที่สุด รวมทั้งยังสามารถเปิดจากโปรแกรมกราฟฟิคยอดนิยม เช่น Ai (Illustrator) แต่การจะพิมพ์งานให้คมชัด สีสวย จะต้องมีส่วนประกอบของเครื่องพิมพ์ และ ประสบการณ์ในการพิมพ์ด้วย จึงจะทำให้งานของเราได้คุณภาพ และสวยงามตามที่เราต้องการนั่นเอง