สีพื้นหลังป้าย ควรใช้สีอะไร
แน่นอนว่า สีพื้นหลังของป้ายที่เราจะนำมาใช้ในการจดทะเบียนบริษัท หรือ ติดบริเวณด้านหน้าของเรานั้น มีความสำคัญเป็นอย่างมากจะต้องผ่านการออกแบบให้มีความสวยงามและมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่เหมือนใคร โดยการเลือกสีจะต้องให้เหมาะสมกับความชอบของแต่ละคน ซึ่งเป็นเรื่องยากถ้าหากใครที่ไม่ได้อยู่ในวงการป้าย วันนี้เราจะมาแนะนำว่าการทำป้ายให้สวยงามตามที่เราต้องการเหมือนกับที่เราจินตนาการไว้หรือไม่ เรามีการคัดเลือกและแยกเป็นกลุ่มสีพื้นหลังได้ 3 กลุ่ม ดังนี้
แต่ละสีจะมีความโดดเด่นไม่แพ้กัน เราสามารถผลิตงานป้ายให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าด้วยคุณภาพงานระดับมืออาชีพอย่างแน่นอน ลองมาดูตัวอย่างป้ายแต่ละสีกันค่ะ
สีพื้นหลังป้ายแบบใส
สีพื้นหลังป้าย แบบสีใส มักจะเป็นที่นิยมสำหรับการตกแต่งแนวสมัยใหม่ พื้นหลังโปร่งใสทำให้ตัวอักษรหรือข้อความบนป้ายเด่นชัดขึ้นมา สร้างภาพลักษณ์ให้สวยงามได้ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ก็มีข้อที่ควรพิจารณาคือ ป้ายรูปแบบนี้ไม่สามารถติดตั้งโดยใช้กาว 2 หน้าได้ทันทีเนื่องจากจะทำให้เราเห็นรอยแถบกาวที่ติดลงบนพื้นผนัง ทำให้ไม่สวยงาม ดังนั้น การติดตั้งรูปแบบนี้มักจะนิยมใช้น๊อตลอยในการติดตั้ง ซึ่งการติดจะทำให้ป้ายดูลอยออกจากผนังเล็กน้อย ทำให้ป้ายของเรามีมิติและโดดเด่นไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว
พื้นหลังป้ายแบบใส นอกจากจะนิยมนำใช้ในงานป้ายบริษัทแล้ว ยังนิยมนำมาใช้ในงานแต่งงาน สำหรับตกแต่งเวทีงานแต่งงาน รวมไปถึงป้ายต้อนรับหน้างานแต่ง ก็นับว่าเป็นงานที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ทั้งสวยงามและราคาไม่แพงอย่างที่คิด อีกทั้งยังสามารถนำไปตกแต่งภายในบ้านของเราได้อีกด้วย
พื้นหลังป้ายสีมาตรฐาน
พื้นหลังป้ายสีมาตรฐาน น่าจะเป็นแบบที่พบเห็นได้ทั่วไป พื้นหลังประเภทนี้ควรใช้เป็นสีของแผ่นอะคริลิคที่ผลิตจากโรงงานจะดีที่สุด เพราะจะเป็นสีทนทาน ไม่ซีดจางง่าย ทนต่อทุกสภาพภูมิอากาศ แต่ก็มีข้อจำกัดที่เราอาจจะเลือกสีได้ไม่มากนัก เพราะด้วยสีที่ผลิตมาจะไม่มีโทนสีให้เลือกมากนัก โดยปกติแล้วโทนสีที่ผลิตมาจะได้โทนสีที่สวยงามอยู่แล้ว อะคริลิคจึงเป็นวัสดุชนิดเดียวที่เหมาะกับการนำมาใช้ทำป้ายอย่างดีที่สุด
ก่อนอื่นเราต้องบอกก่อนว่าเราเป็นร้านทำป้ายอะคริลิคที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากมาย ทำให้เรามีประสบการณ์ในการผลิตได้มากมาย มีตัวอย่างงานมากที่สุด เราจึงนำสีพื้นหลังที่นิยมนำมาให้ชมกันเพื่อเป็นแนวทางในการสั่งผลิตกัน โดยส่วนใหญ่ถ้าอยู่ในกลุ่มพื้นหลังสีธรรมดา ก็มักจะมีอยู่ 4 สีที่นิยมนำมาใช้กัน เช่น
- พื้นหลังสีเขียว
- พื้นหลังสีขาว
- พื้นหลังสีดำ
- พื้นหลังสีน้ำเงิน
นอกจากสีพื้นฐานที่ได้รับความนิยมแล้ว ยังมีตัวอย่างสีอื่นๆ ที่เคยนำมาใช้ทำเป็นงานป้ายบริษัทอีกมากมาย ซึ่งในวันนี้เราจะมาดูกันว่าแต่ละสีเมื่อนำมาทำป้ายนั้นมีความสวยงามและถูกใจเรามากน้อยแค่ไหนนะค่ะ
พื้นหลังป้ายสี “ขาว”
ป้ายที่ใช้พื้นหลังสีขาว เป็นป้ายที่มีการเลือกใช้มากที่สุด เพราะสามารถนำไปใช้งานได้ทุกพื้นที่ สามารถเข้ากันได้กับผนังทุกสี สามารถจับคู่สีได้ง่ายเลือกตัวอักษรได้เกือบทุกสี เมื่อผลิตงานป้ายออกมาแล้วพื้นหลังขาวจะช่วยให้ตัวอักษรสีความเด่นชัด และอ่านง่าย นำไปตกแต่งในสถานที่ต่างๆ ได้ นอกจากนี้แผ่นอะคริลิคสีขาว ยังมีขนาดความหนาให้เลือกมากมาย โดยมีตั้งแต่ 2 มม. – 10 มม. การเลือกนำไปใช้งานป้าย ส่วนใหญ่เราจะใช้ที่ขนาดความหนา 3 มม. เป็นมาตรฐาน เพราะมีความหนาที่พอดีกับการใช้งาน เหมาะกับการนำไปใช้ติดผนังหรือ พื้นผนังเรียบ แต่หากต้องการให้ตัวป้ายยกลอยออกมาจากผนังอาจจะต้องใช้อุปกรณ์น๊อตลอยเสริม ซึ่งในรูปแบบนี้อาจจะต้องปรับขนาดความหนามาเป็น 4 – 5 มม. จะทำให้ป้ายเราดูแข็งแรงและเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด
พื้นหลังสีขาวขุ่น
นอกจากพื้นหลังสีขาวทึบแล้ว ยังมีสีขาวที่มีความโปร่งแสง กล่าวคือป้ายแบบนี้จะมีแสงผ่านได้มากน้อย โดยเรามักจะเรียกกันว่า สีขาวขุ่น หรือ สีฝ้า โดยสีของป้ายจะขุ่นน้อยหรือมาก ขึ้นอยู่กับรหัสของสีที่เราเลือกใช้ โดยปกติ สีขาวขุ่นจะมีรหัสสีให้เลือกอยู่ 3 รหัส ดังนี้
อะคริลิครหัสสี #432 จะมีแสงผ่านได้น้อยเพียง 40%
อะคริลิครหัสสี #433 จะมีแสงผ่านได้ 45%
อะคริลิครหัสสี #010 จะมีแสงผ่านได้มากที่สุด 80%
ในการทำป้าย ส่วนใหญ่มักจะใช้รหัสสี 010 มากที่สุด เพราะ มีความโปร่งใสแบบชัดเจน เมื่อเทียบกับรหัสสี #432 หรือ #433 ซึ่งให้โทนสีใกล้เคียงกับสีขาวมากที่สุด หากคนที่ไม่ได้คุ้นเคยกับแผ่นอะคริลิคอาจจะไม่เห็นความแตกต่างกันเลยทีเดียว
แต่การทำป้ายสีขาวขุ่นอาจจะต้องมีข้อควรระวังในด้านการติดตั้ง เพราะ เนื่องจากความโปร่งแสงของมันนั้นเอง เมื่อเรานำไปติดตั้งบนผนังโดยใช้กาวสองหน้า หรือ กาวตะปู จะทำให้มองเห็นรอยน้ำยาหรือรอยกาว ทะลุไปยังด้านหลังกำแพง ทำให้ไม่สวยงาม ซึ่งวิธีการติดตั้งสำหรับป้ายสีขาวขุ่น จะต้องใช้เป็นแบบหมุดน๊อตลอยที่หลังจากติดตั้งแล้วตัวป้ายจะลอยออกมาจากผนังประมาณ 1-2 ซม. และยึดกับผนังด้วยน๊อตทำให้ไม่มีรอยสำหรับกาวนั่นเอง
อ่านต่อ : เปรียบเทียบ อะคริลิคสีขาวขุ่น vs สีขาวทึบ
พื้นหลังสีดำเงา
ป้ายที่ใช้พื้นหลังสีดำ จะเป็นพื้นหลังที่ต้องใช้ตัวอักษรโทนสีสว่าง เช่น สีขาว หรือ สีทองมิลเลอร์ จะทำให้ตัวอักษรมีความชัดเจน และมองเห็นได้ในระยะไกลๆ ด้วยพื้นหลังสีดำของอะคริลิคจะเป็นแบบสีดำเงาทำให้ตัวป้ายดูสวยหรู ดูแพง และเป็นจุดเด่น สังเกตได้โดยง่าย ส่วนใหญ่ลูกค้าที่เลือกโทนสีพื้นหลังดำ มักจะเหมาะกับการตกแน่งแนวหรูหรา
การออกแบบป้ายให้สอดคล้องกับการตกแต่งภายในให้สวยงามแล้ว ป้ายพื้นหลังสีดำยังดูแลรักษาได้ง่ายดายเพราะ ปกติแล้วเราจะเห็นว่าพื้นสีดำจะปกปิดรอยต่างๆ ได้ดี ทำให้มองไม่เห็นคราบสกปรก หรือ รอยฝุ่นที่ติดบนตัวป้ายได้ ทำให้ป้ายสวยงามและใหม่อยู่เสมอ แต่ถ้าหากต้องการทำความสะอาดเพียงแค่นำผ้านขนนุ่มเช็ดเบาๆบนป้ายเท่านั้น ก็ทำให้ป้ายกลับมาสวยงามสดใสได้เหมือนเดิม
พื้นหลังสีน้ำเงินเข้ม
ป้ายพื้นหลังสีน้ำเงิน เป็นพื้นหลังสีมาตรฐานอีกสีนึง ที่เรามักจะนำไปใช้ในการจดทะเบียนบริษัท หรือ จด Vat เป็นป้ายที่มองเห็นได้ชัดเจน และจับคู่กับสีขาวได้ดีที่สุด ส่วนใหญ่เราจะเห็นป้ายสติกเกอร์ไดคัทสีขาว ซึ่งมีราคาถูกและหาซื้อได้ง่าย แต่ในปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ทันสมัย สามารถพิมพ์สีขาวลงแผ่นอะคริลิคได้โดยตรง ซึ่งเราเรียกว่า ป้ายพิมพ์ UV นั่นเอง
นอกจากเราจะทำป้ายติดหน้าบริษัทแล้ว เรายังนำมาทำเป็นป้ายเพื่อขออนุญาต อย ได้อีกด้วย ซึ่งตามข้อกำหนดแล้วจะต้องมีขนาดมาตรฐานตามข้อกำหนดที่จะต้องมีตัวอักษรขนาดสูง 3-5 ซม. ขนาดและสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน แต่ก็ยังต้องระวังในเรื่องของขนาดตัวอักษรให้เหมาะสมกับป้าย โดยแนะนำให้อ่านบทความเรื่องนี้นะ : ขนาดตัวอักษร สำหรับงานป้าย
นอกจากนี้ยังมีสีพื้นหลังให้เลือกอีกมากมาย และเป็นแบบที่นำมาผลิตเป็นป้ายติดหน้าบริษัทหรือ ป้ายหน้าร้าน แต่การผลิตป้ายให้สวยและทนทาน จะต้องขึ้นอยู่กับวิธีการผลิตของแต่ละร้านทำป้าย ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกมากมาย หลากหลายคุณภาพงาน บางที่ก็ราคาถูกจนน่าตกใจ แต่บางที่ราคาก็สูงเกินกว่าที่จะรับได้
ดังนั้นการเลือกผลิตป้ายควรจะต้องมีความรู้ และวัสดุที่นำมาใช้ รวมไปถึงเครื่องมือสำหรับผลิตให้ได้มาตรฐาน ที่สำคัญจะต้องหาแหล่งผลิตที่ไว้ใจได้ มีตัวอย่างงานให้เห็นก่อนผลิตจริง เพื่อให้ได้งานที่ถูกต้องและตรงตามความต้องการ
ป้ายพื้นหลังสีพิเศษ
ป้ายพื้นหลังสีพิเศษ เริ่มเข้ามามีบทบาทในงานป้ายอย่างเห็นได้ชัด เริ่มมีการนำแผ่นอะคริลิคที่เป็นสีแบบพิเศษ เช่น สีมิลเลอร์ , สีประกายเพชร หรือ สีประกายมุก เป็นต้น ซึ่งเป็นสีที่มีเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะตัวที่มีเฉพาะวัสดุอะคริลิคเท่านั้น แต่พื้นหลังสีพิเศษจะมีความหนาเพียง 2 มม. เท่านั้น จึงเหมาะสำหรับการนำไปใช้ในการตกแต่งพื้นที่ภายใน ที่เรามักจะเห็นกันตาม หน้าห้องคลินิก หรือ ป้ายหน้าห้อง นอกจากนี้ การติดตั้งยังแสนจะง่ายดายเพียงใช้กาวสองหน้าแบบบางติดบริเวณด้านหลังก็สามารถติดแน่นและทนทาน ใช้งานได้ยาวนานอีกด้วย
อ่านต่อ ตัวอย่างป้ายสีพิเศษ : ป้ายสีโรสโกลด์ กับเคล็ดลับการเลือกสีตัวอักษร
ป้ายงาน 2 ชั้น
สำหรับงานป้ายที่มีพื้นหลังเป็นงาน 2 ชั้น คือป้ายที่ใช้ส่วนประกอบของแผ่นอะคริลิคสองแผ่นประกบซ้อนกัน โดยป้ายรูปแบบนี้ จะเน้นพื้นหล้งเป็นสีธรรมดา และประกบด้วยอะคริลิคสีพิเศษ ซึ่งเราทราบกันดีอยู่แล้วว่าแผ่นอะคริลิคสีพิเศษจะมีความหนาเพียง 2 มม. เท่านั้น หากลูกค้าต้องการนำไปใช้งานเป็นพื้นหลัง จะต้องมีการเสริมด้านหลังเพิ่มขึ้นมา ทำให้พื้นหลังมีความหนาและนำไปใช้งานได้อย่างทนทาน นั่นเอง
ป้ายพื้นหลังเสริมแผ่นใส
พื้นหลังเสริมอะคริลิคใส จะเป็นรูปแบบการผลิตที่มีส่วนประกอบของแผ่นอะคริลิค 2 แผ่นประกบกัน โดยชั้นล่างจะเป็นแผ่นอะคริลิคสีพื้นทั่วไป และ ชั้นบนจะเป็นอะคริลิคสีใส โดยการติดข้อความหรือตัวอักษรจะทำอยู่บนแผ่นด้านบนแผ่นใส เวลานำไปติดตั้ง จะต้องติดตั้งพร้อมกับพื้นหลังสีธรรมดา ในรูปแบบนี้จะทำให้เรามองเห็นป้ายแบบนูนที่อยู่บนแผ่นอะคริลิคเคลือบใส ซึ่งเป็นแบบที่ดูพรีเมียมและหรูหรา แต่ในการการติดตั้งรูปแบบนี้จะต้องใช้ติดตั้งด้วยน๊อตหมุดลอย เพื่อให้แผ่นป้ายอะคริลิคทั้งสองป้ายประกบกันสนิทพอดี
เคล็ดลับของการทำป้ายแบบพื้นหลังเสริมอะคริลิคใส จะต้องใช้เครื่องมือการผลิตที่แม่นยำ ควรควบคุมการผลิตด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้ตำแหน่งของรูที่เจาะ ตรงกันทั้งแผ่นบน และแผ่นล่างรวมไปถึงการติดตัวอักษรบนแผ่นอะคริลิคใส จะต้องตรงและมีสัดส่วนที่พอดีจึงจะทำให้ป้ายมีความสวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะอย่างแน่นอน
นอกจากสีที่ใช้ในการเลือกทำพื้นหล้งของป้าย ยังมีในส่วนของสีตัวอักษรและส่วนสำคัญอื่นๆ อีกมากมาย แต่ก่อนที่จะเลือกใช้พื้นหลังได้อย่างถูกวิธียังต้องมีความรู้ในเรื่องการสั่งทำป้ายเบื้องต้น เพื่อลดปัญหาการสั่งผลิตงานไม่ตรงตามที่ต้องการ
แนะนำบทความนี้ก่อน : สั่งทำป้าย ยังไงให้ตรงตามความต้องการ
สรุป
พื้นหลังของป้าย ควรเลือกใช้สีที่เข้ากับสีของตัวอักษรได้ดี ส่งผลให้การมองเห็นได้อย่างชัดเจน โดยแต่ละสีจะมีคุณลักษณะพิเศษที่แตกต่างกัน เช่น สีพื้นหลังใสจะเป็นแบบโปร่งใส เหมาะสำหรับการติดตั้งแบบใช้น๊อตลอย ซึ่งจะทำให้ข้อความลอยขึ้นออกจากผนังเล็กน้อย พื้นหลังสีขาว ช่วยให้ข้อความเห็นได้ชัดเจน เป็นแบบที่นำไปติดตั้งได้กับผนังทุกรูปแบบ พื้นหลังสีธรรมดา จะสามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสมของสถานที่แต่ควรที่จะเลือกดูคู่สีที่เหมาะสมและทำให้ข้อความดูสะดุดตา จะทำให้ป้ายของเราใช้งานได้อย่างมีประโยชน์ที่สุด นั่นเอง